วิเคราะห์ 7 ช่องทางหาเงินออนไลน์ ปี 2016

ยุคนี้สมัยนี้ โลกเราเปลี่ยนไปมาก การหาเงินมีอยู่มากมายหลายช่องทาง บน internet มีการทำธุรกรรมทางการเงินอยู่เต็มไปหมด เรียกว่ามีเงินไหลอยู่บนมันมากมายเหลือเกิน ขอเพียงเรามีตะข่ายไปดักเอาเงินที่วิ่ง ที่ไหลอยู่เหล่านี้มา ก็สามารถทำเงินได้แล้ว

1. E-Commerce ขายของ Online

นับเป็นการหาเงินดั้งเดิมสุด ที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด เงินมา-ของไป สมัยนี้ช่องทางในการขายของมีเยอะแยะเต็มไปหมด มีอะไรก็เอาไปขายได้หมด
- ทั้งเว็บต่างๆ ที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ เช่น lnwshop, Weloveshopping
- เว็บฝากขายของทั่วไป Kaidee, Lazada, eBay, Amazon, Alibaba
- พวกเว็บบอร์ดที่เปิดขายลงโพสขายของกันได้อีกสารพัดเว็บ pantipmarket, overclockzone, pdamobiz พวกนี้ไปลงได้เลย พวกคนที่เค้าเปิดมาดู เค้าพร้อมใจจะเสียตังกันเต็มที่อยู่แล้ว (ไม่งั้นคงไม่เปิดเข้ามาดูอะนะ) นี่ไม่นับพวก Fb Page, IG อีกนะ

วิเคราะห์
ความเสี่ยง: น้อยมากสำหรับสิ่งของที่ไม่เน่าเสีย ขายไม่ออกเอาไปขายตลาดนัดยังได้
ต้นทุน: ขอแค่มีตังซื้อของมาขาย กับ Internet ที่ไว้ใช้โพสขาย ก็เริ่มได้เลย
ต้องคิด: ขายอะไร ต้นทุนคุ้มหรือไม่ วิธีการส่งสินค้า
การบริหารจัดการ: ต้องเป็นระบบ ซึ่งประกอบไปด้วย การหาลูกค้า, การแสดงสินค้า, การเก็บเงิน และ บริการหลังการขาย แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้ social ให้เป็นประโยชน์กัน และบางเว็บที่เสนอไปก็ช่วยได้เยอะ
ความสบาย: น้อยมาก ต้องหาของ ต้องติดต่อกับลูกค้า ต้องส่งของ ตลอดเวลา

2. ขาย Digital Content Online

เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป จะขายของเป็นชิ้นๆ ก็ขายได้ แต่เดี๋ยวนี้คนเค้าจับจ่ายใช้สอย ซื้อของที่เป็นข้อมูล Digital กันแล้ว ยกตัวอย่างก็เช่น
- ขาย sticker LINE
- ขายรูปถ่าย เช่น ที่ Shutterstock, iStockPhoto และอีกมากมาย
- ขาย Mobile App แอป มือถือ ขายบน App Store (iPhone), Play Store (Android)
- ขาย Theme หน้าเว็บ ใช้ตกแต่ง web
- ขาย Ebook เช่น ที่ OOKBEE
พวกนี้สบายหน่อยตรงที่ว่า ทำครั้งเดียว ขายได้เรื่อยๆ แต่มีข้อเสียตรงที่ว่าช่องทางหาเงินของเราจะถูกผูกติดกับ channel นั้นๆ ไปตลอด (หรือจะเรียกว่าเจ้าของร้านก็ได้) มีโอกาสโดนก็อปข้อมูลได้ง่าย

วิเคราะห์
ความเสี่ยง: น้อย จะมีก็แค่เสียเวลา กับเสียเงินซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะมาใช้สร้าง Content ขายออกหรือไม่นี่อีกเรื่องนึง 555+
ต้นทุน: อาจต้องใช้เวลาในการศึกษา ต้องมี skill สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ซักหน่อย
ต้องคิด: ทำแบบไหน คนถึงยอมจ่ายตังซื้อ
การบริหารจัดการ: แทบไม่ต้องทำอะไรหลังจาก setup เสร็จและลงขายแล้ว รอรับตังอย่างเดียว แต่จะมีตรงที่ว่า Content ของเราอาจตกยุคไป ต้องมีการสร้างสิ่งใหม่ๆ พัฒนาของเดิมๆ ให้ up to date และอาจมีคู่แข่งก็ต้องมีการพัฒนาสู้กันหน่อยนึง
ความสบาย: โคตรสบาย ระบบ run ได้ด้วยตัวเอง รับตังอย่างเดียว กลัวโดนก็อปอย่างเดียว

3. รับจ้าง Freelancer ยุคใหม่

สมัยก่อนกว่าจะได้งาน freelance ซักงาน คงต้องมีคนเห็นฝีมือ ต้องมี connection ถึงจะได้รับการไว้วางใจจ้างงานมา ซึ่งจริงๆ แล้ว คนทำงานมีฝีมือนี่มีเยอะมาก เพียงแต่ขาด connection ไปถึงผู้จ้างงานเท่านั้น ทำให้มีคนเห็นจุดนี้มาทำเป็น web จัดหางานง่ายๆ อย่างเช่น
เว็บนึงของต่างประเทศ Fiverr และ ของไทย Fastwork เว็บพวกนี้จะเน้นงานเล็กๆ น้อยๆ คิดไม่แพง

วิเคราะห์
ความเสี่ยง: น้อย เนื่องจากเป็นในลักษณะ เงินมา-ของ/บริการไป จะมีคนจ้างมั้ยนี่ค่อยว่ากัน
ต้นทุน: n/a เนื่องจากสินค้า บริการ คณะแบบมาก
ต้องคิด: ทำอะไร ให้ไม่ซ้ำคนอื่น หรือให้ดีกว่าคนอื่น เน้นง่าย เสร็จเร็ว job เล็กๆ
การบริหารจัดการ: n/a เนื่องจากสินค้า บริการ คละแบบมาก
ความสบาย: n/a เนื่องจากสินค้า บริการ คละแบบมาก

4. รับโฆษณา (Affiliate, Ads Network)

อันนี้อาจต้องมีพื้นฐานความรู้เรื่องทางด้าน technical หน่อย เพราะที่ๆ เราจะเอาโฆษณามาลงได้นี่ก็จะมีอยู่หลักๆ คือ บนเว็บไซต์ หรือ blog หรือเป็นพวก mobile app วิธีการหลักๆ ก็คือเริ่มจากการสร้างเว็บไซต์หรือ mobile app เนี่ยแหละ จนติดตลาด คนทำจะรู้ว่ามีคนใช้คนดูของเขาเยอะเท่าไหร่ ถ้ามีเยอะพอสมควรแล้ว ก็ไปทำการติดต่อสมัครขอเป็นผู้โฆษณา จากเว็บขายโฆษณาต่างๆ ซึ่งมีหลายเจ้ามากกกกกก เช่น
- Lazada เจ้าของร้านขายของออนไลน์ชื่อดัง
- Adsense, AdMob ของ Google
- Audience Network ของ Facebook
- อื่นๆ buzzcity, millennialmedia, etc. (อีกเยอะ)
- พวกที่รวมหลายๆเจ้าเข้าไว้ด้วยกัน อย่าง Mopub ของ Twitter (แต่ตัวนี้ Ads บางชนิดยังไม่มีของไทย)
การรับเงินก็รับโดยนับจากจำนวนการ click, view

วิเคราะห์
ความเสี่ยง: ปานกลาง ในเรื่องของความยากที่จะให้ติดตลาด ซึ่งทำไปแล้วอาจเสียเวลา เสียทุนทรัพย์ได้บ้าง เพราะการแข่งขันสูง
ต้นทุน: ต้องทำการศึกษาทาง technical สูงพอสมควร การเขียนโปรแกรม การทำ SEO ต้องใช้ทั้งเวลาและทรัพยากร
ต้องคิด: ทำอะไร ให้ไม่ซ้ำคนอื่น หรือให้ดีกว่าคนอื่น (อีกเช่นเคย)
การบริหารจัดการ: ถ้า setup ครั้งแรกเรียบร้อย ต่อไปก็จะเป็นเรื่อง maintenance การหา content มาลง การพัฒนา app, web ให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ
ความสบาย: ถ้าติดตลาดแล้ว สบายพอสมควร เนื่องจากเงินเข้ากระเป๋าเองตลอดเวลาที่มีคนใช้

5. เล่นหุ้น กองทุน (Stock Investment)

ยุคนี้แล้ว คนเข้าถึงหุ้นกันง่ายขึ้น เปิดบัญชีง่ายขึ้น ถ้าอยู่ในตัวเมืองนี่ marketing ของแต่ละ broker ส่ง messenger มารับหลักฐานใบสมัครถึงออฟฟิศเลยทีเดียว แต่...คนที่รอดในตลาดได้ก็มีจำนวณไม่มาก มีคนได้ ก็ต้องมีคนเสีย

วิเคราะห์
ความเสี่ยง: สูง เพราะต้นทุนมีการหายไปได้ แต่จะลดต่ำลงจากการศึกษาข้อมูล เดี๋ยวนี้มี Trade System มากมายให้ศึกษา, style การลงทุนแบบต่างๆ หรือถ้าเป็นกองทุนก็หากองที่ความเสี่ยงต่ำลง
ต้นทุน: เงิน และ เวลาศึกษา
ต้องคิด: ต่อยอดจากการศึกษา
การบริหารจัดการ: พอร์ตลงทุน ติดตามข่าวสาร
ความสบาย: สบายแต่ผลตอบแทนน้อยสำหรับการลงทุนระยะยาว, เหนื่อยหน่อยสำหรับการลงทุนระยะสั้น

6. ขายตรง ธุรกิจเครือขาย ยุคใหม่ (MLM : Multi Level Marketing)

ขายตรง MLM หรือ ปิระมิด นี่ได้เงิน 3-4 ทาง คือจากการขายผลิตภัณฑ์, จากโบนัสค่าสมัครของ down line, จากยอดขายของ down line ที่มาสมัครต่อจากเรา และจากโบนัสตำแหน่ง ลักษณะการทำงานคือ เหนื่อยหาสมาชิกช่วงแรก สบายช่วงท้ายตอนที่มีสมาชิกมากๆ แล้ว
ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ เช่น Amway, Unicity, Giffarine, ซูเลียน (Zhulian), AmStar
แต่ละยี่ห้อมีผลิตภัณฑ์และแผนธุรกิจแตกต่างกันออกไป มีจุดเด่นคนละแบบ
การทำตลาด MLM ยุคใหม่นี้ง่ายขึ้นเพราะเราสามารถใช้ social network ในการติดต่อสื่อสารได้ หา prospect ดีๆ โดยการ check form จาก status ที่เขาเหล่านั้นโพสก็ได้

วิเคราะห์
ความเสี่ยง: ปานกลาง จากการเสียเวลาหาสมาชิก แต่ถ้าจะนับระยะยาวก็ถือว่าคุ้ม ถ้าเจอ "Dragon"
ต้นทุน: เวลาศึกษา, เวลาเข้ากลุ่ม, เวลาทำนัด, Connection, Social Network
ต้องคิด: ว่าจะเลือกใครเป็น prospect, การ present แผน, วิธีการหา prospect ใหม่ๆ และที่สำคัญที่สุดคือ วิธีการเชิญชวนอย่างไร ไม่ให้ผิดใจกับ prospect
การบริหารจัดการ: การทำนัด, การบริหาร down line เวลามีเครือข่ายใหญ่ขึ้น
ความสบาย: เหนื่อยแทบขาดใจแน่ๆในช่วงแรก จนกว่าจะเจอ "Dragon" และหลังจากนั้นจึงจะสบาย

7. การหาเงินยุคใหม่ และพวก Money Game (MMM, FOREX*, BitCoins, HYIP, MATRIX, BINARY)

ท้ายสุดเป็นรูปแบบใหม่ของการหาเงิน (หรือโดนหลอกเอาเงิน) ซึ่งเกิดจากการนำ Technology มาใช้

บรรดา Money Game ต่างๆ จะค่อนข้างเป็นสีเทาๆ แทบทั้งหมด มีหลายเจ้ามาก รูปแบบของเกมส์ก็แตกต่างกันไป แต่ลักษณะการได้เงินก็คือมาจากสมาชิกที่เข้าร่วมกันเอง ผลตอบแทนสูง และได้อย่างรวดเร็ว มีทั้งเจ้าที่จ่ายจริงและจ่ายหลอก สำคัญคือ ทุกเจ้ามีจุดจบ ใครมาช้ามีสิทธิ์เจอตอนเลิกระบบ เงินหายไปพร้อมระบบเลย

วิเคราะห์
ความเสี่ยง: สูงมาก ถ้าเจ้าปิดระบบ เงินกลายเป็น 0 ทันที
ต้นทุน: เงินต้นทุน, เวลาศึกษา
ต้องคิด: ของเจ้าไหนถูกต้อง มีตรรกะชัดเจน การจ่ายเงินจ่ายจริง มีหลักฐาน มีตัวบุคคลที่ได้รับเงินจริง ระยะเวลาเปิดทำการของระบบ ส่วนใหญ่พวกนี้เล่นกันแปปๆ ก็ปิดตัว
การบริหารจัดการ: n/a แล้วแต่เจ้า
ความสบาย: n/a แล้วแต่เจ้า

การหาเงินรูปแบบอื่นที่เกิดจาก Technology เช่น ขุด BitCoins รายละเอียดค่อนข้างเยอะ

พวกนี้ผมคิดว่ามันจะมีเกิดขึ้นมาอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ถ้าเราติดตามข่าวสารให้ดี ทำตัวเป็นผู้พร้อมรับอย่างมีตรรกะ ศึกษาสิ่งใหม่ๆ ผมเชื่อว่าเราหาเงินได้ง่ายๆ เรื่อยๆ แน่นอนครับ

บทความโดย Meng Jaa